Innovation Thinking

การประสานงานแบบ "Co-Creation" ไพ่ลับสำคัญแห่ง Innovation Era

หากองค์กรของคุณยังทำงานแบบเดิม ๆ ที่มีเพียงสมาชิกของทีมพัฒนานั่งคิดเอง ออกแบบเอง ลงมือทำเอง และผิดพลาดเองซ้ำ ๆ ลองเปิดใจเรียนรู้การประสานงานแบบ Co-Creation ซึ่งเป็นไพ่ลับสำคัญขององค์กรชั้นนำที่จะทำให้การทำงานของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป — แล้วคุณจะเห็นว่า การสร้างสรรค์นวัตกรรมดี ๆ จะเกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างจริงและอยู่รอดได้ก็ต่อเมื่อเกิดจากพลังของคนทุกคนร่วมคิด ร่วมสร้าง และร่วมภูมิใจไปกับคุณ

August 1, 2025
·
0
mins
Peesadech Pechnoi (Mac)
ภีศเดช เพชรน้อย
การประสานงานแบบ "Co-Creation" ไพ่ลับสำคัญแห่ง Innovation Era

การประสานงานแบบ "Co-Creation" ไพ่ลับสำคัญแห่ง Innovation Era

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันล้วนแต่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและการปรับตัวให้ทันต่อโลกที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว หลาย ๆ องค์กรทุ่มงบประมาณทั้งหมดไปกับการวิจัยและการพัฒนาเพื่อให้ได้มาซึ่งนวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุดและก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าแห่งตลาดตัวจริง แต่โลกแห่งความจริงไม่ได้สวยงามขนาดนั้น เพราะปัญหาที่พบบ่อย ๆ นั่นก็คือ แม้จะมีไอเดียเจ๋ง ๆ หรือโปรเจกต์ใหม่ ๆ ที่ต่อคิวรอการพัฒนานับไม่ถ้วน แต่พอนำมาพัฒนาจริง ๆ แล้ว กลับไม่ตอบโจทย์ลูกค้าหรือพัฒนาได้ไม่สุดทางเพราะสมาชิกภายในทีมเริ่มสื่อสารกันไม่เข้าใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าองค์กรของคุณขาด “การประสานงานในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ” 

จากปัญหาที่เกิดขึ้น หลาย ๆ องค์กรพยายามแก้ไขโดยการใช้วิธี Collaboration หรือการประสานงานร่วมกันระหว่างทีม เพื่อให้สมาชิกทุกคนภายในองค์กรเข้าใจกระบวนการทำงานตรงกันและลงมือทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งน่าเสียดายที่ผลตอบรับยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะการประสานงานในองค์กรยุคนี้ได้เปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่ตอบโจทย์อย่างแท้จริงนั่นก็คือ “การประสานงานแบบ Co-Creation” ซึ่งเป็นทักษะการประสานงานที่ทำให้สมาชิกภายในทีมและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนได้มีส่วนร่วมกับกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบ

หากองค์กรของคุณยังทำงานแบบเดิม ๆ ที่มีเพียงสมาชิกของทีมพัฒนานั่งคิดเอง ออกแบบเอง ลงมือทำเอง และผิดพลาดเองซ้ำ ๆ ลองเปิดใจเรียนรู้การประสานงานแบบ Co-Creation ซึ่งเป็นไพ่ลับสำคัญขององค์กรชั้นนำที่จะทำให้การทำงานของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป — แล้วคุณจะเห็นว่า การสร้างสรรค์นวัตกรรมดี ๆ จะเกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างจริงและอยู่รอดได้ก็ต่อเมื่อเกิดจากพลังของคนทุกคนร่วมคิด ร่วมสร้าง และร่วมภูมิใจไปกับคุณ

การประสานงานแบบ Co-Creation คือไร? ทำไมถึงเป็นไพ่ลับขององค์กร

การประสานงานแบบ Co-Creation คือ กระบวนการทำงานร่วมกันในระดับที่ “ลึกกว่า” การทำงานร่วมกันเป็นทีมแบบปกติ เพราะการประสานงานในองค์กรแบบ Co-Creation เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง “ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด” ตั้งแต่สมาชิกภายในทีม พนักงานภายในองค์กรทีมอื่น ๆ ผู้เชี่ยวชาญภายนอก ไปจนถึงผู้บริโภคที่ใช้งานสินค้าหรือบริการจริง โดยทุกคนจะเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่กระบวนการเก็บข้อมูล คิดวิเคราะห์ ออกแบบ แก้ไขปรับปรุง และทดลองใช้จริง แทนที่ทีมพัฒนาและผู้บริหารจะนั่งประชุมกันเองภายในห้องสี่เหลี่ยม การเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาแสดงความคิดเห็น เสนอไอเดีย และบอกเล่าต้นตอของปัญหาที่แท้จริง จะทำให้องค์กรสามารถพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

ตัวอย่างเช่น “บริษัท A” เป็นบริษัทของเล่นบริษัทหนึ่ง ได้จัดทำแคมเปญให้ลูกค้าทั่วโลกร่วมกันสร้างสรรค์ไอเดียและออกแบบคอนเซปต์สำหรับของเล่นคอลเล็กชันใหม่ หากไอเดียไหนได้รับความสนใจมากที่สุด ทางบริษัทจะนำไอเดียนั้นมาผลิตเป็นของเล่นคอลเล็กชันใหม่จริง ๆ ซึ่งการจัดทำแคมเปญนี้ นอกจากจะได้สร้างของเล่นที่ถูกใจผู้บริโภคจริง ๆ ยังสร้าง Brand Loyalty จากความรู้สึกของการได้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ที่ชื่นชอบและสร้างกระแสการพูดถึงบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็นวงกว้างอีกด้วย

หรือจะเป็น “บริษัท B” ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องดื่มชื่อดัง ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้แชร์ไอเดียเมนูที่อยากลองบนเว็บไซต์ ซึ่งมีลูกค้ามากมายหลั่งไหลเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์เมนูแปลก ๆ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ แน่นอนว่าผลลัพธ์ของแคมเปญนี้คือ บริษัทสามารถสร้างสรรค์เมนูใหม่ได้โดนใจความต้องการของลูกค้ามากที่สุด รวมถึงสร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้กับลูกค้าจนอยากกลับมาซื้อซ้ำ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมการ Collaboration ถึงไม่เพียงพอ เหตุผลก็คือ สำหรับหลาย ๆ องค์กร การพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ เกิดจากการคิด วิเคราะห์ ออกแบบ และพัฒนาจากสมาชิกทีมพัฒนาหรือพนักงานภายในองค์กรเพียงเท่านั้น โดยไม่ได้นำฟีดแบ็กจากกลุ่มผู้ใช้งานจริงมาใช้ในการพัฒนาเท่าที่ควร ทำให้นวัตกรรมที่เหมือนจะดูดีบนกระดาษแผนเชิงกลยุทธ์กลับไม่ตอบโจทย์เมื่อนำมาวางขายจริง เพราะไม่ได้แก้ Pain Point ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจริง ๆ

ดังนั้น การประสานงานแบบ Co-Creation จึงเปรียบเสมือน “ไพ่ลับ” ขององค์กร เพราะเป็นกระบวนการพัฒนานวัตกรรมที่ได้ไอเดียใหม่ ๆ จาก Pain Point ของผู้ใช้งานจริง ลดความเสี่ยงในการพัฒนาสินค้าหรือบริการที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการ สร้างวัฒนธรรมการสื่อสาร การรับฟังความคิดเห็นโดยปราศจากอคติ และพัฒนาทักษะการประสานงานในองค์กร ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนรู้สึกว่าความคิดเห็นของตัวเองมีคุณค่าและเป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมใหม่ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้น รวมถึงสร้าง Brand Loyalty จากความผูกพันและประสบการณ์ดี ๆ ที่ลูกค้ามีร่วมกับองค์กร

3 ข้อดีของการประสานงานแบบ Co-Creation

1. นวัตกรรมตอบโจทย์อย่างแท้จริง

ข้อดีข้อแรกของการประสานงานในองค์กรแบบ Co-Creation คือ นวัตกรรมใหม่ที่ถูกคิดค้นสามารถตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง เพราะการประสานงานแบบ Co-Creation เปิดพื้นที่ให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ผู้ใช้งานจริง หรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นตอนเสนอไอเดีย ออกแบบ ไปจนถึงแก้ไขปรับปรุงจุดบกพร่อง ทำให้นวัตกรรมที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาไม่ใช่แค่ “สิ่งที่คิดว่าดี” แต่เป็น “สิ่งที่ผู้ใช้จริงรับรองว่าดี”

การประสานงานในองค์กรแบบ Co-Creation ทำให้องค์กรได้รับข้อมูลเชิงลึก (Insight) อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหรือบกพร่องที่ลูกค้าต้องเผชิญ ฟีเจอร์ที่สามารถพัฒนาให้เป็นจุดแข็งของสินค้าได้ หรือความต้องการอื่น ๆ ของลูกค้าที่สมาชิกทีมพัฒนาอาจจะมองไม่เห็น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่จะทำไปพัฒนาสินค้าหรือบริการได้อย่างตรงจุด ลดความเสี่ยงในการพัฒนานวัตกรรมที่ไม่มีใครต้องการหรือบริการที่สร้างความไม่พึงพอใจให้กับลูกค้า รวมถึงช่วยประหยัดทรัพยากรต่าง ๆ ขององค์กรได้อย่างมีนัยสำคัญ

2. สร้างความผูกพันและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

ข้อดีข้อที่สองของการประสานงานในองค์กรแบบ Co-Creation คือ การสร้างความผูกพันและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เนื่องจากในปัจจุบันเป็นยุคที่ลูกค้ามีตัวเลือกมากมายนับไม่ถ้วน เพียงปลายนิ้วคลิกบนโซเชียลมีเดียก็จะพบกับตลาดการแข่งขันอันดุเดือด สินค้าและบริการต่างแข่งขันกันด้วยคุณภาพและราคากันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน แต่จริง ๆ แล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและภักดีต่อแบรนด์ ๆ หนึ่งในระยะยาว ไม่แค่สินค้าที่คุณภาพดีที่สุดหรือราคาถูกที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่เป็น “ประสบการณ์” ที่พวกเขาได้รับตั้งแต่วันแรกที่สนใจสินค้าจนถึงบริการหลังการขายหลังสินค้าถูกใช้งานจริง

การประสานงานในองค์กรแบบ Co-Creation ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าความคิดเห็นและความต้องการของพวกเขาได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้จะสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ได้อย่างลึกซึ้ง เพราะลูกค้าจะไม่รู้สึกว่าเป็นเพียงผู้บริโภค แต่เป็น “ส่วนหนึ่งของแบรนด์” ที่ค่อย ๆ เติบโตไปพร้อม ๆ กัน

เมื่อแบรนด์และลูกค้ามีความผูกพันกัน จะทำให้ลูกค้าเกิดความภักดีต่อแบรนด์ พร้อมสนับสนุน แนะนำ และบอกต่อสิ่งดี ๆ เกี่ยวกับแบรนด์ให้คนรอบข้าง ซึ่งส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว 

3. สร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบเปิดกว้าง

ข้อดีข้อที่สุดท้ายของการประสานงานในองค์กรแบบ Co-Creation คือ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบเปิดกว้าง เพราะเมื่อองค์กรเปิดโอกาสให้พนักงานภายในองค์กรทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการคิดและตัดสินใจ พนักงานจะเกิดความรู้สึกว่าเสียงของตัวเองมีคุณค่า แม้จะเป็นเพียงไอเดียคร่าว ๆ หรือความคิดเห็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ได้รับการรับฟังอย่างเท่าเทียมและปราศจากอคติ

การประสานงานในองค์กรแบบ Co-Creation เป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ “Psychological Safety” หรือสภาวะปลอดภัยทางจิตในการทำงาน ซึ่งเป็นการสร้างพื้นที่ปลอดภัยและปลูกฝังให้พนักงานภายในองค์กรกล้าคิด กล้าพูด กล้าลงมือทำ และไม่กลัวการเผชิญหน้ากับความผิดพลาด รวมถึงพร้อมท้าทายกรอบความคิดเดิม ๆ อยู่เสมอ เพราะทุกคนรู้ว่า หากเกิดข้อผิดพลาดก็จะได้รับคำแนะนำและเป็นประสบการณ์ในการเรียนรู้ แทนที่จะไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวถูกตำหนิหรือถูกมองว่าเป็นภาระ 

นอกจากนี้ วัฒนธรรมองค์กรแบบเปิดกว้างยังช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเมื่อสมาชิกในทีมรู้สึกเป็นเจ้าของโปรเจกต์ร่วมกัน พวกเขาจะช่วยสังเกตและวิเคราะห์ตลาดหรือปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างกระตือรือร้น ทำให้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์มีข้อมูลรอบด้านและแม่นยำมากขึ้น ซึ่งทำให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน

หัวใจสำคัญของการประสานงานในองค์กรแบบ Co-Creation คือ ความเชื่อมั่นในพลังของการร่วมมือร่วมใจและวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง โปร่งใส และสร้างคุณค่าให้ทุก ๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกลายเป็น “ไพ่ลับ” สำคัญที่องค์กรยุคใหม่ไม่ควรมองข้ามหากต้องการอยู่และเติบโตท่ามกลางการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

อ้างอิงจาก

Co-Creation คืออะไร และเหตุใดจึงมีคุณค่ามาก?, braineet

หลักสูตรแนะนำ

Design Thinking for Creating Innovation

ในยุคที่เทคโนโลยีและความเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นเรื่อย ๆ การนำทักษะการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) มาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ และใช้ในการแก้ไขปัญหาและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างให้องค์กรสามารถปรับตัวได้อย่างคล่องตัว ผ่านการคิด และออกแบบนวัตกรรมใหม่ ๆ

คอร์สนี้เหมาะกับ

'Design Thinking for Creating Innovation' เหมาะสำหรับบุคลากรในระดับผู้จัดการ และผู้บริหารที่ต้องการพัฒนาทักษะความคิดเชิงออกแบบอย่างสร้างสรรค์

สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับ

  • ได้รับมุมมองที่หลากหลาย - เริ่มจากความเข้าใจกระบวนการคิด ทำให้เกิดขึ้นได้จริง ประยุกต์ใช้เป็น เเละนำไปใช้กับทีมทำงานได้ เข้าใจลักษณะของแต่ละขั้นตอนที่แตกต่างกัน ที่จะทำให้ผู้เรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในบริบทขององค์กรหรือของการทำงานที่แตกต่างกันได้
  • ได้รับทักษะขั้นสูงของกระบวนการคิดเชิงออกแบบ - เพื่อทำให้ผู้เรียนมีทางเลือกในการหยิบทักษะแต่ละตัวไปใช้ และทำให้ผู้เรียนสามารถออกแบบวิธีการแก้ปัญหาได้ เมื่อเจอเคสในการสร้างนวัตกรรมจริงในองค์กร ที่ละเอียดและซับซ้อน พร้อมทั้งสามารถนำทักษะขั้นสูงไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • มองภาพรวมที่ใหญ่กว่า - วิธีการแก้ปัญหาที่ดี นอกจากจะต้องตอบโจทย์และแก้ปัญหาให้กับมนุษย์ได้ ยังต้องสามารถต่อยอดเพื่อทำให้มันสามารถสร้างได้จริง และสามารถยั่งยืน (Sustain) ในมุมของธุรกิจได้ เพื่อทำให้ไอเดียหรือกระบวนการคิดที่ได้จากกระบวนการนี้ สามารถต่อยอดไปเป็นนวัตกรรมจริงในองค์กร

รายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม > คลิกที่นี่

ติดต่อปรึกษา BASE Playhouse ฟรี! โทร 094-191-4626 หรือกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกลับ ที่นี่