Leadership

อยากเป็นหัวหน้าที่ดี? ทำตาม 3 เทคนิคนี้ได้เลยไม่ต้องรอ!

นิยามของ “หัวหน้าที่ดี” จึงหมายถึง บุคคลที่มีบทบาทในการ “นำทีม” โดยต้องอาศัยทักษะความเป็นผู้นำ (Leadership Skills) ทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Communication Skills) และความเข้าอกเข้าใจเพื่อนมนุษย์ (Empathy) รวมถึงต้องมีวิสัยทัศน์ก้าวไกล สามารถสร้างความไว้วางใจและผลักดันศักยภาพของสมาชิกภายในทีมได้อย่างเต็มที่

May 16, 2025
·
0
mins
Maytwin Pitipornvivat (Mum+)
เมธวิน ปิติพรวิวัฒน์
อยากเป็นหัวหน้าที่ดี? ทำตาม 3 เทคนิคนี้ได้เลยไม่ต้องรอ!

อยากเป็นหัวหน้าที่ดี? ทำตาม 3 เทคนิคนี้ได้เลยไม่ต้องรอ!

หัวหน้าที่ดีควรเป็นอย่างไร? ทำไมถึงเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จขององค์กร?

ในโลกของการทำงานจริง ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่ ตำแหน่ง “หัวหน้า” หรือผู้นำ นับเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อองค์กร เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจและอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนพนักงานภายในทีมค่อนข้างสูง หากจะพูดให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ ยิ่งหัวหน้ามีความสามารถสูงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งการันตีได้ว่าจะสามารถนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

แต่อย่างไรก็ตาม หัวหน้าที่เก่งไม่ได้แปลว่าเป็นหัวหน้าที่ดีเสมอไป เพราะหัวหน้าบางคนแม้จะมีทักษะความสามารถรอบด้าน มีประสบการณ์การทำงานมากมาย มีความเชี่ยวชาญด้านนั้น ๆ สูงชนิดที่ว่าหาตัวจับยาก หรือมีความทะเยอทะยานเต็มเปี่ยม แต่กลับไม่สามารถบริหารจัดการคน ซึ่งหมายถึงสมาชิกภายในทีมหรือเพื่อนร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ยังไม่นับว่าคน ๆ นั้นเป็นหัวหน้าที่ดี จะมองเป็นเพียงหัวหน้าที่ทำงานเก่งเท่านั้น

ดังนั้น คำนิยามของ “หัวหน้าที่ดี” จึงหมายถึง บุคคลที่มีบทบาทในการ “นำทีม” โดยต้องอาศัยทักษะความเป็นผู้นำ (Leadership Skills) ทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Communication Skills) และความเข้าอกเข้าใจเพื่อนมนุษย์ (Empathy) รวมถึงต้องมีวิสัยทัศน์ก้าวไกล สามารถสร้างความไว้วางใจและผลักดันศักยภาพของสมาชิกภายในทีมได้อย่างเต็มที่

1. หัวหน้าที่ดีต้องเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ

คุณสมบัติแรกของคำถาม หัวหน้าที่ดีควรเป็นอย่างไร? คือ หัวหน้าที่ดีต้องเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ โดยต้องเป็นคนที่มีวาทศิลป์ในการพูดคุยและเจรจา สามารถวิเคราะห์จุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไขของสมาชิกภายในทีมได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีอวัจนภาษาที่เหมาะสม สามารถเติมพลังใจให้กับสมาชิกภายในทีมให้พร้อมลุกขึ้นสู้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านการชื่นชมหรือการให้กำลังใจผ่านคำพูด การแสดงความขอบคุณผ่านภาษากาย การให้รางวัลตามความเหมาะสม หรือการสนับสนุนสิ่งต่าง ๆ ตามความต้องการของสมาชิกภายในทีม

การได้รับถ้อยคำชื่นชมหรือการได้รับการยอมรับจากผู้ซึ่งเป็นหัวหน้า ทำให้สมาชิกภายในทีมเกิดความมั่นใจในตัวเอง รู้สึกภาคภูมิใจ และรู้สึกมีคุณค่า ส่งผลให้เกิดแรงผลักดันในการมุ่งมั่นตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพดีและมีประสิทธิภาพให้แก่องค์กร ซึ่งเป็นผลมาจากการที่หัวหน้าที่ดีสามารถเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจได้

2. หัวหน้าที่ดีต้องนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จ

คุณสมบัติข้อที่สองของคำถาม หัวหน้าที่ดีควรเป็นอย่างไร? คือ หัวหน้าที่ดีต้องนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จ หรือพูดง่าย ๆ ว่า คนที่รับบทบาทหน้าที่เป็นหัวหน้าต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล เนื่องจากหัวหน้าเปรียบเสมือนกัปตันเรือ เพราะเป็นคนกำหนดทิศทางในการทำงาน กำหนดเป้าหมายที่ต้องการพิชิตให้สำเร็จ และช่วยให้สมาชิกภายในทีมทุกคนไม่หลงทางแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่มีความท้าทายสูง หากขาดกัปตันเรือไป รับรองได้ว่าการทำงานจะต้องยากลำบากขึ้นอย่างแน่นอน

ดังนั้น หัวหน้าที่ดีต้องสามารถนำพาทีมไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างถูกทิศทาง กล้าได้กล้าเสีย กล้าเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคโดยไม่กลัวความผิดพลาด พร้อมวิเคราะห์ความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อระมัดระวังไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการวางแผนการทำงาน

นอกจากนี้ หัวหน้าที่ดีไม่ได้มีหน้าที่เพียงทำตามคำสั่งจากผู้บริหารเบื้องบน แต่จะต้องเป็น “ตัวกลาง” ในการถ่ายทอดความต้องการและเป้าหมายขององค์กรระหว่างผู้บริหารและสมาชิกภายในทีมให้เข้าใจตรงกันอย่างชัดเจน เพื่อลดความผิดพลาดในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพของผลงานให้ดีมากกว่าเดิม เนื่องจากสมาชิกภายในทีมจะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรและเป้าหมายนั้น ๆ ส่งผลให้สมาชิกภายในทีมตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถ หัวหน้าที่ดี ลูกน้องที่ดี เป็นองค์ประกอบในการทำงานร่วมกันที่ต้องผสมผสานกันอย่างลงตัว จึงจะสามารถนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

3. หัวหน้าที่ดีต้องมีวุฒิภาวะ

คุณสมบัติข้อสุดท้ายของคำถาม หัวหน้าที่ดีควรเป็นอย่างไร? คือ หัวหน้าที่ดีต้องมีวุฒิภาวะ ซึ่งหมายถึงการควบคุมอารมณ์ การใช้เหตุและผลในการทำงาน การตัดสินใจอย่างรอบคอบโดยปราศจากอคติทั้งหมด รวมไปถึงการรับผิดชอบภาระหน้าที่ของตัวเองและช่วยเหลือภาระหน้าที่ของสมาชิกคนอื่น ๆ ภายในทีมอย่างเหมาะสม

หัวหน้าที่ดีจะต้องระมัดระวังไม่ให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์โกรธ อารมณ์โมโห อารมณ์หงุดหงิด อารมณ์เสียใจ หรืออารมณ์พึงพอใจในตัวสมาชิกภายในทีมคนใดคนหนึ่งมากกว่าปกติจนทำให้คนอื่น ๆ เกิดความรู้สึกคับข้องใจจนเกิดความขัดแย้งภายในทีม

นอกจากนี้ หัวหน้าที่ดีจะต้องมีปฏิภาณไหวพริบ รู้ว่าเวลาไหนควร “พูด” และเวลาไหนควร “ฟัง” ไม่ควรพูดจาโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่าง ๆ ที่ตามมา เพราะทุกคำพูดและทุกการกระทำของคนที่เป็นหัวหน้า ย่อมส่งผลต่อความคิด ความรู้สึก และการกระทำของสมาชิกภายในทีมซึ่งเป็นผู้ฟัง คำพูดเล็ก ๆ ที่คิดว่าไม่มีอะไรอาจจะสร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่จนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ไม่ต่างอะไรจากน้ำผึ้งหยดเดียว

หัวหน้าที่ดี ลูกน้องที่ดี เมื่อร่วมมือร่วมใจกันทำงานอย่างเต็มที่ทั้งพลังกายและพลังใจ ย่อมสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานที่องค์กรต้องการ ส่งผลให้องค์กรสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและแข็งแรง

3 เทคนิคพิชิตใจลูกน้องให้อยู่หมัด

การเป็นหัวหน้าที่ดีต้องมีทั้งทักษะความสามารถอันแสนเก่งกาจ มีอำนาจในการนำทีม และหัวใจโอบอ้อมอารีต่อเพื่อนมนุษย์ เพื่อสร้าง ”ทีม“ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นอันแรงกล้าในขับเคลื่อนพลังแห่งการทำงานไปสู่เป้าหมายขององค์กรที่วางไว้ให้สำเร็จ เพราะหัวหน้าที่ดี ลูกน้องที่ดี เป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำงานร่วมกันโดยไม่สามารถขาดใครคนใดคนหนึ่งไปได้ ดังนั้น หัวหน้าที่ดีจะต้องสามารถพิชิตใจลูกน้องและก้าวขึ้นมาเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ เพื่อขับเคลื่อนทีมให้ไปไกลกว่าขีดจำกัดที่เคยวาดไว้

แล้วหัวหน้าที่ดีต้องทำอย่างไรถึงจะทำให้ลูกน้องรักและอยากร่วมงานด้วย? มาดูเทคนิคง่าย ๆ แต่พิชิตใจลูกน้องได้จริงไปพร้อม ๆ กัน

1. ”รับฟัง“ ลูกน้องให้เป็น

เชื่อว่าทุกคนคงเคยเจอคนประเภทที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ความคิดของฉันต้องถูกที่สุด ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ไม่ฟังทั้งนั้น จนคนรอบตัวต่างเอือมระอาไม่อยากจะเข้าใกล้ แต่จะทำอย่างไรหากคน ๆ นั้นต้องมาเป็นหัวหน้าของเรา แค่คิดก็เป็นฝันร้ายจนอยากยื่นใบลาออกให้รู้แล้วรู้รอดไป

ดังนั้น หัวหน้าที่ดีจึงต้อง “รับฟัง” สมาชิกภายในทีมให้เป็น ไม่ยึดถือความคิดเห็นของตัวเองเป็นหลัก เปิดใจยอมรับความแตกต่างและความหลากหลายของสมาชิกภายในทีม เพื่อนร่วมงาน ผู้บริหาร และคนอื่น ๆ รอบตัวโดยปราศจากอคติ ซึ่งการรับฟังไม่ใช่เพียงแค่การฟังเพื่อรับรู้หรือการฟังให้ผ่าน ๆ ไป แต่จะต้องรับฟังสิ่งที่สมาชิกภายในทีมพูดอย่างตั้งใจ รวมถึงทำความเข้าใจด้วยใจจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม

การรับฟังด้วยความตั้งใจจะทำให้สมาชิกภายในทีมรู้สึกได้รับความใส่ใจอย่างแท้จริง รู้สึกว่าคำพูดของตัวเองมีคุณค่าและมีความหมาย กล้าคิด กล้าทำ และการแสดงออกมากขึ้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความไว้วางใจของหัวหน้าที่ดี ลูกน้องที่ดี ทำให้การทำงานร่วมกันดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นและมีคุณภาพ

2. ให้อิสระและสนับสนุนโอกาสในการเติบโต

แน่นอนว่าไม่มีใครไม่อยากพัฒนาตัวเองเพื่อเติบโตในการประกอบอาชีพ ดังนั้น หัวหน้าที่ดีควรให้อิสระและสนับสนุนโอกาสในการเติบโตของสมาชิกภายในทีม โดยอาจจะเริ่มจากการการวิเคราะห์จุดแข็งและจุดที่ควรพัฒนาของสมาชิกในทีมแต่ละคน เพื่อทำความเข้าใจความแตกต่างในการทำงานอย่างลึกซึ้ง เมื่อมีโอกาสดี ๆ เข้ามา หัวหน้าที่ดีจะต้องเป็นคนคอยสนับสนุนและผลักดันให้สมาชิกภายในทีมได้ทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ รวมถึงให้อิสระในการแสดงความคิดเห็น เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาศักยภาพให้เหนือกว่าที่เคยเป็น

3. มีความยืดหยุ่นและเข้าอกเข้าใจ

เพราะลูกน้องไม่ใช่แค่เพียงเครื่องจักรในการทำงานหรือทรัพยากรของบริษัท แต่เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีชีวิตและจิตใจ ดังนั้น หัวหน้าที่ดีควรมีความยืดหยุ่นในการทำงานและมีความเข้าอกเข้าใจสมาชิกภายในทีมทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว (อย่างมีขอบเขต)

ลูกน้องหลาย ๆ คนต้องแบกรับภาระหน้าที่ส่วนตัวที่ซับซ้อน ทั้งเรื่องครอบครัว ปัญหาสุขภาพ หรือเรื่องอื่น ๆ ที่อาจจะทำให้กระทบกับการทำงาน ในฐานะหัวหน้าที่ดี หากลองแสดงความเข้าใจและความเป็นห่วงเป็นใยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถซื้อใจลูกน้องได้มากมายมหาศาล เช่น ยืดหยุ่นเวลาการทำงานตามความเหมาะสมของลูกน้อง ณ สถานการณ์นั้น ๆ คอยถามไถ่อย่างจริงใจว่าทุกอย่างโอเคหรือไม่หรือต้องการความช่วยเหลืออะไรไหม การจำวันเกิดหรือวันสำคัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ เป็นต้น

หัวหน้าที่ดี ลูกน้องที่ดี เป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญขององค์กร การมีความยืดหยุ่น เอาใจใส่ และเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน จะช่วยลดความขัดแย้งในการทำงาน เกิดความสนิทสนมกันมากขึ้น เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กันและกัน ส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นมิตร

สุดท้ายนี้ขอฝากทุก ๆ คนว่า หัวหน้าที่ดีไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้บังคับบัญชา แต่เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่น ๆ รอบตัว และเป็นผู้ผลักดันศักยภาพของสมาชิกภายในทีมให้แข็งแกร่ง พร้อมเติบโตไปกับองค์กรและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นที่หนึ่งเหนือใครอย่างสุดความสามารถ

ด้วยเหตุผลนี้ หัวหน้าที่ดีจึงเป็น “กุญแจสู่ความสำเร็จขององค์กร” อย่างแท้จริง หากองค์กรใดต้องการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดและเติบโตอย่างมั่นคงในตลาดการแข่งขันที่แสนดุเดือน การลงทุนเพื่อพัฒนา “หัวหน้า” ให้กลายเป็น “หัวหน้าที่ดี” คือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

อ้างอิงจาก

5 คุณสมบัติส่งเสริมให้หัวหน้าที่ดี (Leadership) เป็นหัวหน้าที่ใคร ๆ ก็อยากทำงานด้วย, HREX

หัวหน้าที่ดี และดีขึ้นได้อีกกับ 10 เทคนิคพิชิตใจลูกน้อง, jobsdb

หลักสูตรแนะนำ

People Manager in Action

ทักษะการบริหารคนเป็นหัวใจของการเป็นผู้นำที่ดี 

หลักสูตรนี้จะเน้นไปที่การพัฒนาภาวะผู้นำและอิทธิพลทางสังคม พร้อมฝึกทักษะที่ช่วยให้ผู้จัดการสามารถสร้างแรงจูงใจให้ทีมได้ การที่องค์กรจะขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากคนในทีม ”ผู้นำทีม” จึงต้องมีทักษะการบริหารงาน (Management Skills) และทักษะ การจัดการทรัพยากรคน (People Skills) เพื่อสร้างทีมที่แข็งแรง และผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

หัวหน้าที่บริหารคนเก่ง ส่งผลดีต่อทีมอย่างไร?

  • ทีมพร้อมพุ่งชนทุกความท้าทายทีมไว้ใจกันและกัน
  • สร้างยูนิตการทำงานที่แข็งแกร่งทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ทุกคนรู้จุดแข็งของตัวเอง และทำงานได้อย่างเต็มความสามารถ
  • บรรยากาศในการทำงานน่ารื่นรมย์ คนในทีมแฮปปี้

คอร์สนี้เหมาะกับ

Senior หรือ Manager มือใหม่ที่ต้องการบูสต์ความสามารถในการบริหารลูกน้องและทีมงาน ควบคู่ไปกับการบริหารผลงานของทีมให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด

รายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม > อ่านที่นี่

ติดต่อปรึกษา BASE Playhouse ฟรี! โทร 094-191-4626 หรือกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกลับ ที่นี่