Active Listening ฟังอย่างไรให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งและได้ใจทีม
Active Listening ต้องใช้สมาธิ เข้าใจเนื้อหาและอารมณ์ของผู้พูด พร้อมตอบสนองอย่างเหมาะสม
ทำไม Active Listening จึงสำคัญ? เคล็ดลับการฟังเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้ง
ในยุคที่การสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญของการทำงาน ความสามารถในการฟังอย่างตั้งใจหรือ "Active Listening" กลายเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการประชุมในองค์กร การพูดคุยกับลูกค้า หรือแม้แต่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนร่วมงาน การฟังอย่างตั้งใจสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สร้างความไว้วางใจ และช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้น
ความหมายและความสำคัญของ Active Listening
ความหมายที่แท้จริงของ Active Listening
Active Listening หรือ "การฟังเชิงรุก" ไม่ใช่แค่การได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย แต่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้สมาธิและความตั้งใจอย่างแท้จริง เพื่อทำความเข้าใจทั้งเนื้อหาและอารมณ์ของผู้พูด การฟังเชิงรุกแตกต่างจากการฟังทั่วไปตรงที่ต้องมีการตอบสนองที่เหมาะสม เช่น การตั้งคำถาม การยืนยันความเข้าใจ และการแสดงออกทางภาษากาย
ประโยชน์ของ Active Listening ต่อองค์กร
- การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง – เมื่อพนักงานรับฟังกันอย่างตั้งใจ จะช่วยลดความขัดแย้ง และเสริมสร้างความสามัคคีภายในทีม
- การพัฒนาทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ – ทำให้การสื่อสารในองค์กรมีความกระชับและลดโอกาสเกิดความเข้าใจผิด
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน – เมื่อพนักงานสามารถสื่อสารและเข้าใจกันได้ดีขึ้น ย่อมทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
องค์ประกอบสำคัญของ Active Listeningทักษะพื้นฐานที่จำเป็น
- การใส่ใจในสีหน้าและภาษากาย – สังเกตการแสดงออกทางอารมณ์ของผู้พูด
- การจับประเด็นและการตั้งคำถาม – ช่วยให้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของบทสนทนา
- การแสดงความเข้าใจในความรู้สึกของผู้พูด (Empathic Listening) – ทำให้ผู้พูดรู้สึกว่าตนเองได้รับความเข้าใจและยอมรับ
การพัฒนาความเข้าใจเชิงลึก
- การวิเคราะห์ทัศนคติและความเชื่อของผู้พูด – เพื่อทำความเข้าใจบริบทและเจตนาของข้อความ
- การสังเกตอารมณ์และความรู้สึกที่แท้จริง – ช่วยให้สามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม
เทคนิคการพัฒนา Active Listening ในองค์กรแนวทางการฝึกอบรม
- การจัด Workshop เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง – ฝึกการฟังเชิงรุกผ่านสถานการณ์จำลอง
- การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสื่อสารอย่างเปิดกว้าง – กระตุ้นให้พนักงานกล้าแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
การวัดผลและการติดตาม
- ตัวชี้วัดความสำเร็จในการพัฒนาทักษะการฟัง – ใช้แบบประเมินพฤติกรรมการฟังของพนักงาน
- การประเมินผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน – ตรวจสอบว่าการพัฒนาทักษะการฟังช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงานหรือไม่
การประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงกรณีศึกษาความสำเร็จบริษัทชั้นนำหลายแห่ง เช่น Google และ Microsoft ให้ความสำคัญกับ Active Listening โดยมีการจัดอบรมพนักงานให้สามารถฟังและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยลดความขัดแย้งภายในทีมและเพิ่มความร่วมมือในการทำงานแนวทางการแก้ไขปัญหาที่พบบ่อย
- อุปสรรคในการพัฒนาทักษะการฟัง – เช่น ความไม่ใส่ใจ ความลำเอียง และการขัดจังหวะ
- วิธีการจัดการกับความท้าทาย – เช่น การฝึกสมาธิ การตั้งเจตนาในการฟัง และการใช้เทคนิคการสะท้อนคำพูด
บทสรุปActive Listening เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับทุกองค์กร การพัฒนาความสามารถนี้ไม่เพียงช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังส่งผลให้การทำงานเป็นทีมมีความราบรื่นและลดความขัดแย้งในองค์กรได้ การฝึกฝนและประยุกต์ใช้ Active Listening อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ทั้งบุคคลและองค์กรเติบโตไปพร้อมกันหลักสูตรที่แนะนำ
Effective Communication
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเพื่อความร่วมมือในทีม
หลักสูตรการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพช่วยให้พนักงานสามารถสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในองค์กรได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการสื่อสารในยุคดิจิทัลที่มีทั้งออนไลน์และออฟไลน์
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่การพูดคุย แต่เป็นการสื่อสารที่ทำให้ทั้งผู้พูดและผู้ฟัง เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน Effective Communication ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความผิดพลาด และความขัดแย้งในการทำงาน แต่ยังช่วยสร้างความสันพันธ์ที่ดีในองกร์ด้วย
คอร์สนี้เหมาะกับ
บุคลากรทุกระดับภายในองค์กร องค์กรที่มีความหลากหลายในการทำงาน การทำงานข้ามแผนกข้ามสายงาน การทำงานที่มีความแตกต่างระหว่าง Generation
รายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม > อ่านที่นี่
ติดต่อปรึกษา BASE Playhouse ฟรี! โทร 094-191-4626 หรือกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกลับ ที่นี่
